ฝุ่น PM 2.5 จากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล
ฝุ่น PM 2.5 ภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพ
ฝุ่น PM 2.5 หรือ Particulate Matter 2.5 คืออนุภาคขนาดเล็ก ที่ลอยอยู่ในอากาศ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า ทำให้สามารถลอดผ่านระบบกรองของร่างกายเข้าสู่ปอดได้โดยตรง ฝุ่นเหล่านี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพมากมาย
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง และถือเป็นปัญหาในระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงในหลายประเทศทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำรงชีวิต ของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก การตระหนักถึงอันตรายของฝุ่น PM 2.5 การปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และการแก้ไขต่างๆ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการลดการก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น ดังกล่าว

ฝุ่น PM 2.5 สาเหตุเกิดจากอะไร?
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 มีสาเหตุหลักมาจาก :
- การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เช่น การสันดาปของรถยนต์ รถบรรทุก ทั้งประเภทเครื่องยนต์ เบนซิน และ ดีเซล, การปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม, การเผาขยะ, และการเผาป่า ฯลฯ เป็นต้น
- กระบวนการทางธรรมชาติ เช่น ภูเขาไฟระเบิด, พายุทราย
- กิจกรรมของมนุษย์ เช่น การก่อสร้าง, การเกษตร, และการใช้ชีวิตประจำวัน
ผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่มีต่อสุขภาพ
ฝุ่น PM 2.5ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และเป็นอันตรายต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากฝุ่นนั้นมีขนาดอนุภาคที่เล็กมาก และกระจายอยู่ทั่วไปในอากาศ จึงสามารถเข้าสู่ร่างกายของคนเราได้โดยง่าย ผ่านการหายใจ การสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ, หัวใจและหลอดเลือด อาทิเช่น
- ผลกระทบต่อ ระบบทางเดินหายใจ เช่น ทำให้เกิดอาการไอ, เจ็บคอ, หายใจติดขัด ไม่สะดวก, เกิดอาการหอบหืด, และ อาจส่งผลให้เป็นโรคปอดเรื้อรัง
- ผลกระทบต่อ ระบบหัวใจ และหลอดเลือด ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และความดันโลหิตสูง
- ผลกระทบต่อ ระบบอวัยวะอื่นๆ เช่น ตาแดง หรือ ระคายเคืองตา, ระบบประสาท ทำให้เกิดอาการเวียนศรีษะ, ระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง คันตามผิวหนัง, และ การหายใจเอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 เข้าไปสะสมในร่างกาย อาจเพิ่มความเสี่ยง ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้
แนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
ระดับบุคคล :
- สวมหน้ากาก ที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 เช่น หน้ากาก N95
- หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หรืองดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในวันที่ค่าฝุ่นสูง
- ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในบ้าน
- ใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยกรองอากาศสะอาด และ ลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน
ระดับสังคม และชุมชน :
- ให้ความร่วมมือ ในการลดการปล่อยมลพิษ สู่บรรยากาศ เช่น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หันมาใช้รถขนส่งสาธารณะ, ลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นควันในอากาศ การก่อสร้าง การเผาขยะ การเผาอ้อย ฯลฯ เป็นต้น
- ให้การสนับสนุน และปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ ที่เกี่ยวกับการลดมลพิษ เช่น การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด, เลือกใช้รถยนต์ ที่ได้มาตรฐาน ยูโร 5 หรือ ยูโร 6 ขึ้นไป
ระดับประเทศ :
- การออกระเบียบ และ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการ เพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และยานพาหนะ ต่างๆ
- ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, ฯลฯ เป็นต้น
- ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ และ ระบบการแจ้งเตือน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล และป้องกันตนเอง

ฝุ่น PM 2.5 จากเครื่องยนต์ดีเซล: ปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข
เครื่องยนต์ดีเซล ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ และ ในเชิงอุตสาหกรรมโดยทั่วไป สามารถพบได้ในยานพาหนะเกือบทุกชนิด อาทิเช่น รถยนต์, รถบรรทุก, รถขนส่ง, รถบัส, รถขุด, รถตัก, รถจักรการเกษตร อีกทั้ง ยังสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องกำเนิดกำลังในเครื่องจักรยนต์ต่างๆ อาทิเช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Diesel Generator), เครื่องปั๊มลมขนาดใหญ่ (Air Compressor) ฯลฯ เป็นต้น
การสันดาปเผาไหม้ของรถเครื่องยนต์ดีเซล จึงถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของน้ำมันดีเซลภายในเครื่องยนต์ ทำให้เกิดเขม่าควันดำ, ไอเสียที่เป็นมลพิษ และมีอนุภาคขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หรือที่เรียกว่าฝุ่น PM 2.5 ปะปนอยู่ในไอเสียนั้นๆ และเมื่อปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพต่อร่างกาย ซึ่งสาเหตุที่เครื่องยนต์ดีเซลเผาไหม้ไม่สมบูรร์นั้น อาจเกิดจากหลายปัจจัยอันเนื่องมาจาก กระบวนการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความซับซ้อนกว่าเครื่องยนต์เบนซิน, คุณภาพของน้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของกำมะถันสูง ตลอดจน สภาพของเครื่องยนต์ที่เก่า หรือไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้ลดลง
แอดบลู ช่วยบำบัดมลพิษจากการเผาไหม้เครื่องยนต์ดีเซล
ในปัจจุบัน รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐาน ยูโร 5 หรือ ยูโร 6 ขึ้นไป จะมีเทคโนโลยี Selective Catalytic Reduction (SCR) ซึ่งเป็นกระบวนการบำบัดไอเสีย และควบคุมปริมาณไอเสีย ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ก่อนปล่อยสู่บรรยากาศ โดยจะมีการใช้ น้ำยาแอดบลู (AdBlue, หรือ น้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล หรือ Diesel Exhaust Fluid (ชื่อย่อ DEF)) ฉีดเข้าไปในระบบ เพื่อทำปฏิกิริยากับไอเสีย และก๊าซพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ เปลี่ยนให้กลายเป็นอากาศ และไอน้ำ ก่อนปล่อยสู่บรรยากาศ ดังนั้นการใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล ยูโร 5 ขึ้้นไป ที่มีระบบ SCR และการใช้ แอดบลู จึงช่วยให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ลดการปล่อยมลพิษ เขม่าควันดำ สู่บรรยากาศ จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยลดการก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 และ ลดผลกระทบอันตรายต่อสุขภาพ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
น้ำยา แอดบลู (AdBlue) แบรนด์ BLUETEG® เป็นสารละลายยูเรียที่มีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งเป็นเกรดที่เหมาะสำหรับใช้ในรถยนต์ดีเซล ผ่านกรรมวิธีการผลิตตามมาตรฐาน ISO22241 จากโรงงานผลิตที่ได้รับการรับรอง คุณจึงมั่นใจได้ในคุณภาพ และมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม สนใจสั่งซื้อ สามารถติดต่อเรา ได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้ :
- Line Official : @teg.official
- Facebook : น้ำยาแอดบลู AdBlue BLUETEG
- โทรศัพท์ : 092-261-8625 (โทร และ ไลน์)
- อีเมล์ : [email protected]
- Shopee : TEG Official Store
- Lazada : TEG Cooling